แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ร่วงตกรอบแชมเปี้ยนส์ ลีก หลังจากบุกไปแพ้ต่อบาเยิร์น มิวนิค 1-3 ทำให้สกอร์รวม 2 นัดแพ้ไป 2-4 แม้ว่าทีมปีศาจแดงจะเป็นฝ่ายออกนำไปก่อนจากประตูที่อัลลิอันซ์ อารีน่า ของ ปาทริซ เอฟร่า ก็ตาม
ประตูขึ้นนำของทีมเยือนนั้นสร้างความได้เปรียบไม่นาน หลังจากนำบอลมาเขี่ยใหม่ได้เพียงแค่ 22 วินาที เจ้าถิ่นก็สามารถตีเสมอได้สำเร็จจาก มาริโอ มันด์ซูกิช แถมภายในช่วงเวลาไม่ถึง 10 นาที บาเยิร์นก็มาพลิกขึ้นนำจากการยิงของ โธมัส มูลเลอร์ เท่านั้นยังไม่พอ อาร์เยน ร็อบเบน มากดประตูฝังเป็นลูกที่ 3 ในนาทีที่ 76 เป็นการดับความหวังของทีมปีศาจแดงไปโดยปริยาย
ทีมของ เดวิด มอยส์ บุกมาเน้นเกมรับได้ดีในครึ่งแรก บาเยิร์นมีโอกาสที่จะบุกไปลุ้นทำประตูอยู่บ้าง แต่ คริส สมอลลิ่ง ก็เล่นได้อย่างเหนียวแน่น ถือเป็นนักเตะที่โดดเด่นที่สุดในแนวรับของทีมปีศาจแดงในช่วง 45 นาทีแรกเลยทีเดียว
หลังจากที่มาเล่นกันต่อในครึ่งหลัง นาทีที่ 55 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็ได้ทดสอบความเหนียวของผู้รักษาประตูเจ้าถิ่นเป็นครั้งแรก ชินจิ คากาวะ ได้สับไกยิงไปติดเซฟของ มานูเอล นอยเออร์
แต่ว่าหลังจากนั้นไม่นาน ทีมเยือนก็มาได้ประตูขึ้นนำไปก่อนจนได้ อันโตนิโอ วาเลนเซีย ลากผ่านกองหลังทีมเสือใต้ก่อนที่จะครอสบอลมาให้ ปาทริซ เอฟร่า ซัดเต็มข้อด้วยเท้าซ้ายเสียบคานเข้าประตูไป
บาเยิร์นโต้ตอบทันควัน และก็มาได้ประตูตีเสมออย่างรวดเร็วจาก มาริโอ มันด์ซูกิช ถึงตรงนี้สถานการณ์กลับมาเท่ากันแล้วด้วยกฏประตูทีมเยือน เวย์น รูนี่ย์ เกือบที่จะทำให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ขึ้นนำอีกครั้งจากการยิงระยะ 12 หลา แต่ว่าจังหวะนี้ก็พลาดไป
กลายเป็นเจ้าถิ่นที่มายิงแซงขึ้นนำจากลูกขลุกขลิกหน้าประตู โธมัส มูลเลอร์ เอาชนะ เนมานย่า วิดิช ที่พยายามล้มตัวสกัดส่งบอลผ่านมือ ดาบิด เด เคอา เข้าประตูไปเป็น 2-1 และความหวังที่จะกลับมาของทีมเยือนก็จบลงในนาทีที่ 76 เมื่อ อาร์เยน ร็อบเบน ลากตัดผ่านแนวรับปีศาจแดง ก่อนที่จะซัดเสียบเสาเข้าประตูไป
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จบเกมนี้ด้วยการร่วงตกรอบในที่สุด แถมโอกาสกลับมาลงเล่นแชมเปี้ยนส์ ลีก ในฤดูกาลหน้าก็เรียกได้ว่าริบหรี่ มันอาจทำให้ความรู้สึกเศร้าหมองอยู่บ้าง แต่อย่างน้อยผลงานการต่อกรกับทีมแชมป์เก่าอย่างบาเยิร์น มิวนิค ในเกมนี้ก็ยังพอทำให้แฟนๆ สามารถยืดอกได้ด้วยความภาคภูมิ
สถิติ